ผลกระทบที่นักการตลาดต้องเจอ

เมื่อไม่มี Third-Party Cookie แล้ว สิ่งที่จะได้รับผลกระทบหลักๆ มีดังนี้ค่ะ

• การกำหนดกลุ่มเป้าหมาย (Targeting) จะยากขึ้น: เราจะไม่สามารถสร้างกลุ่มเป้าหมายแบบละเอียดตามพฤติกรรมการท่องเว็บได้เหมือนเดิม
• การทำ Remarketing มีข้อจำกัดมากขึ้น: การยิงโฆษณา "ตามหลอกหลอน" ลูกค้าที่เคยเข้าชมเว็บไซต์จะทำได้ยากขึ้น
• การวัดผลโฆษณา (Measurement) ไม่แม่นยำเท่าเดิม: การติดตาม Conversion หรือการเดินทางของลูกค้าข้ามแพลตฟอร์มจะทำได้ลำบากขึ้น ทำให้ยากที่จะประเมินผล ROI ที่แท้จริง

กลยุทธ์วัดผลโฆษณาแห่งอนาคต: ปรับตัวอย่างไรให้รอดในยุคไร้ Cookie

แม้จะฟังดูน่ากังวล แต่ในทุกวิกฤตย่อมมีโอกาสเสมอค่ะ ยุคไร้ Cookie คือช่วงเวลาที่นักการตลาดต้องกลับมาให้ความสำคัญกับกลยุทธ์ที่ยั่งยืนมากขึ้น ซึ่งมีแนวทางดังนี้ค่ะ

1. ใช้ First-Party Data ให้เต็มที่

First-Party Data คือข้อมูลลูกค้าที่เราเก็บรวบรวมเองโดยตรง เช่น ข้อมูลการสมัครสมาชิก, อีเมล, เบอร์โทรศัพท์, หรือพฤติกรรมการซื้อสินค้าในเว็บไซต์ของเราเองค่ะ ข้อมูลชุดนี้มีค่ามากที่สุดในยุคไร้ Cookie เพราะเป็นข้อมูลที่ถูกต้องและเป็นของเราเองอย่างแท้จริง

• สร้างฐานข้อมูลลูกค้า: กระตุ้นให้ลูกค้าสมัครสมาชิกหรือกรอกข้อมูลเพื่อรับข่าวสาร
• ใช้ข้อมูลเพื่อสร้างกลุ่มเป้าหมาย: นำข้อมูลเหล่านี้ไปใช้เป็น Custom Audience ในการยิงโฆษณา

2. ลงทุนในเครื่องมือ AI และ Machine Learning

ในเมื่อเราไม่สามารถติดตามพฤติกรรมลูกค้าได้แบบเดิม เทคโนโลยี AI และ Machine Learning จะเข้ามามีบทบาทสำคัญในการช่วยวิเคราะห์และคาดการณ์พฤติกรรมของลูกค้าจากข้อมูลที่มีอยู่ (Modeling) ทำให้เราสามารถสร้างแคมเปญโฆษณาที่ยังคงมีประสิทธิภาพได้ค่ะ

• Conversion Modeling: ระบบ AI จะช่วยคาดการณ์ Conversion ที่หายไป ทำให้เราเห็นภาพรวมของแคมเปญได้สมบูรณ์ขึ้น
• Automated Bidding: ระบบ AI จะช่วยปรับการประมูลโฆษณาให้เหมาะสม เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดจากงบประมาณที่มี

3. หันกลับมาใช้ Contextual Targeting

Contextual Targeting คือการยิงโฆษณาตามเนื้อหาที่ลูกค้ากำลังดูอยู่ค่ะ เช่น โฆษณาครีมกันแดดจะไปปรากฏในบทความเกี่ยวกับการท่องเที่ยวหรือฤดูร้อน แม้วิธีนี้จะดูเป็นเทคนิคเก่า แต่ในยุคที่ข้อมูลส่วนตัวถูกจำกัด Contextual Targeting จะกลับมามีบทบาทสำคัญอีกครั้ง เพราะช่วยให้โฆษณาเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้โดยไม่จำเป็นต้องใช้ Cookie ค่ะ

4. ใช้ Server-Side Tracking (Conversion API)

นี่คือเทคโนโลยีที่มาแทนที่การ Tracking แบบเดิมๆ ค่ะ Conversion API ช่วยให้เราสามารถส่งข้อมูล Conversion จาก Server ของเว็บไซต์เราไปยังแพลตฟอร์มโฆษณาได้โดยตรง ทำให้ข้อมูลมีความแม่นยำและเสถียรมากขึ้น อีกทั้งยังเป็นมิตรกับความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้งานด้วยค่ะ