Knowledges

ถ้าถามว่าแอปฯ อะไรที่คนไทยเปิดบ่อยที่สุดตั้งแต่ตื่นยันเข้านอน คำตอบคงหนีไม่พ้น LINE (ที่มีผู้ใช้งานกว่า 54 ล้านคน) แต่เรื่องตลกร้ายคือ เมื่อพูดถึง "การยิงแอด" นักการตลาดส่วนใหญ่มักจะนึกถึง Facebook หรือ TikTok ก่อนเสมอ LINE Ads (LINE Ads Platform - LAP) จึงกลายเป็น "ม้ามืด" ที่หลายคนมองข้าม โดยหารู้ไม่ว่าในปี 2026 ที่ค่าโฆษณาใน Social Media อื่นๆ แพงหูฉี่ และการหาลูกค้าใหม่ยากยิ่งกว่าเข็นครกขึ้นภูเขา LINE Ads คือกุญแจดอกสำคัญที่จะไขประตูสู่ "กำไร" จากฐานลูกค้าเดิม (Retention) ที่คู่แข่งของคุณอาจยังไม่รู้

คำถามโลกแตกของคนขายของออนไลน์ที่มีร้านอยู่บน Shopee หรือ Lazada คือ "มีงบอยู่ก้อนเดียว จะเอาไปเติมเครดิตยิงโฆษณาในแอป (In-App Ads) หรือเอาไปยิง Facebook/TikTok เพื่อดึงคนเข้ามาซื้อดี?" ในปี 2026 ที่ค่าโฆษณาแพงขึ้นทุกแพลตฟอร์ม การเลือกผิดฝั่งอาจหมายถึงการ "ละลายงบ" โดยไม่ได้ยอดขายกลับมา บทความนี้จะพาคุณไปผ่าตัดโครงสร้างของทั้งสองกลยุทธ์ เพื่อหาคำตอบว่า ร้านของคุณเหมาะกับวิธีไหนมากที่สุด

ในโลกการตลาดปี 2026 คำว่า "Omni-channel" หรือการหว่านเงินไปทุกแพลตฟอร์มอาจไม่ใช่คำตอบที่ดีที่สุดเสมอไป โดยเฉพาะเมื่องบประมาณมีจำกัด การเลือกผิดที่ก็เหมือน "ตะโกนขายเนื้อเกรด A ในงานมังสวิรัติ" เสียงดังแค่ไหน ก็ไม่มีใครซื้อ สินค้าแต่ละประเภทมี "ธรรมชาติ" และ "Customer Journey" ที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง วันนี้เราจะมาผ่ากลยุทธ์รายอุตสาหกรรม เพื่อดูว่าสินค้าของคุณควรไปทุ่มงบที่ไหน ถึงจะคุ้มค่า ROI (Return on Investment) มากที่สุด

คุณเคยสังเกตไหม? เมื่อก่อนถ้าอยากรู้อะไร เราจะพูดว่า "เดี๋ยว Google ดูก่อน" แต่ในปี 2025-2026 เด็กจบใหม่หรือแม้แต่คนวัยทำงานเริ่มเปลี่ยนประโยคนี้เป็น "เดี๋ยวไปดูรีวิวใน TikTok ก่อน" นี่ไม่ใช่แค่การเปลี่ยนแอปฯ เล่นๆ แต่มันคือการเปลี่ยนแปลงเชิงโครงสร้างของพฤติกรรมผู้บริโภค (Consumer Behavior Shift) ที่เจ้าของธุรกิจต้องจับตา เพราะ "พื้นที่การค้นหา" คือสมรภูมิที่ดุเดือดที่สุดของการตลาดออนไลน์

สำหรับเจ้าของธุรกิจในยุคดิจิทัล การยิงโฆษณาออนไลน์หรือ "ยิงแอด" ถือเป็นเครื่องมือสำคัญในการเข้าถึงลูกค้า แต่หลายครั้งกลับต้องเผชิญกับปัญหาสุดคลาสสิกอย่าง "ยิงแอดไปแล้วเงียบกริบ" หรือ "เหมือนเอาเงินไปละลายน้ำ" บทความนี้จะพาไปสำรวจสาเหตุของปัญหา พร้อมเปรียบเทียบให้เห็นภาพชัดเจนระหว่างการลงมือยิงแอดด้วยตัวเอง กับการใช้บริการเอเจนซี่การตลาดมืออาชีพ ว่าแบบไหนคือทางเลือกที่ใช่สำหรับธุรกิจของคุณ

Meta บริษัทแม่ของ Facebook และ Instagram ประกาศใช้มาตรการใหม่ที่มีผลโดยตรงต่อผู้ลงโฆษณาและนักการตลาดทุกท่านในประเทศไทย โดยกำหนดให้บัญชีโฆษณาต้องดำเนินการ ยืนยันตัวตน (Advertiser Verification) ให้เสร็จสิ้น หากไม่ดำเนินการภายใน 7 วัน หลังจากได้รับการแจ้งเตือน โฆษณาทุกแคมเปญจะถูก หยุดการมองเห็นทันที

เพื่อแสดงความเคารพ สำรวม และดำรงชีวิตตามปกติในช่วงเวลาแห่งความสูญเสีย ในช่วงนี้ การลงคอนเทนต์ควรคำนึงถึงความเหมาะสมของโทนและอารมณ์ เช่น ลดการใช้สีฉูดฉาด เนื้อหาที่เน้นความสนุกสนาน หรือมุกตลกที่อาจไม่เหมาะกับบรรยากาศ สามารถเลือกโพสต์เนื้อหาที่ให้กำลังใจ ถ่ายทอดคุณค่าดี ๆ หรือพูดถึงความดีงาม การใช้ชีวิตด้วยสติ และความสามัคคีแทน หากเป็นแบรนด์ ควรตรวจสอบทุกโพสต์ก่อนเผยแพร่ เพื่อให้สื่อสารอย่างเคารพและไม่กระทบความรู้สึกของสังคมโดยรวม เราควรปรับตัวอย่างไรให้เหมาะสมในช่วงเวลานี้ 

ในปี 2568 Facebook ได้ปรับอัลกอริทึมครั้งใหญ่ โดยให้ความสำคัญกับ คอนเทนต์ที่มีคุณภาพและสร้างปฏิสัมพันธ์อย่างมีความหมาย มากขึ้น พร้อมนำเทคโนโลยี AI เข้ามาช่วยคัดกรองและนำเสนอเนื้อหาให้ตรงกับความสนใจของผู้ใช้แต่ละคนมากที่สุด

อยากให้โพสต์ปัง ต้องเริ่มจากภาพที่ใช่ เช็กขนาดภาพ Facebook ล่าสุดก่อนลงทุกครั้งนะคะ เพราะการใช้สัดส่วนที่ถูกต้องจะทำให้ภาพคมชัด สวยงาม และดูมืออาชีพมากขึ้น

ก่อนอื่นเลย มาทำความรู้จักกับ Third-Party Cookie กันก่อนนะคะ มันคือไฟล์เล็กๆ ที่เว็บไซต์ของบุคคลที่สาม (ไม่ใช่เว็บไซต์ที่เรากำลังเข้าชมโดยตรง) นำมาฝังไว้ในเบราว์เซอร์ของเราค่ะ เพื่อใช้ติดตามพฤติกรรมการใช้งานข้ามเว็บไซต์ ทำให้โฆษณาสามารถ "ตามติด" เราไปได้ทุกที่

เข้าใจเลยว่าในช่วงที่เศรษฐกิจผันผวน การวางแผนการตลาดอาจจะดูเป็นเรื่องที่ท้าทายไม่น้อยเลยนะคะ แต่เชื่อไหมคะว่าในทุกวิกฤตย่อมมีโอกาสเสมอ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับ Performance Marketing ที่สามารถปรับตัวและวัดผลได้อย่างแม่นยำค่ะ